เจาะข้อมูล Haval Jolion Hybrid SUV รถเซกเมนต์ B-SUV ล้ำสมัยที่ราคาจับต้องได้

ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับรถแบรนด์จีน Great Wall Motor หรือ GWM ที่สร้างกระแสความน่าสนใจตั้งแต่ช่วงต้นปี 64 ด้วยการเปิดตัว HAVAL H6 รถ Hybrid SUV และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง Ora Good Cat  และปิดท้ายปลายปีด้วยกระแสที่น่าสนใจอย่าง Haval Jolion Hybrid SUV รถเซกเมนต์ B-SUV ล้ำสมัยที่ราคาไม่ข้ามล้าน

ซึ่งหลายคนคงตั้งคำถามในใจแน่ว่ารถราคาไม่ข้ามล้านมีดีอะไร? ทำไมคนพูดถึงกันหนาหู? ทั้งที่ราคาแค่นี้ได้เพียงตัวรองหรือตัวเริ่มต้นของค่ายญี่ปุ่นเท่านั้น เพื่อคลายข้อสงสัยว่า Haval Jolion Hybrid SUV มีทีเด็ดอะไรเรามาดูข้อมูลกัน

B-SUV แต่เน้นด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวก

HAVAL JOLION Hybrid SUV ยังครบเครื่องด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งฟังก์ชั่นการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) การสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM Application ตลอดจนระบบการช่วยเหลือและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ (Driver Assistance and Safety Systems) อาทิ

-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)

-การเข้าโค้งอัจฉริยะ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)

-ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)

-กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา

-ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)

ขุมพลัง 190 แรงม้า ที่มาพร้อมการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์

HAVAL JOLION Hybrid ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5L ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 375 นิวตันเมตร มาพร้อมกับระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว อีกทั้งยังสร้างขึ้นบน GWM LEMON PLATFORM แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจริยะเช่นเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV อีกด้วย

โดยเป็นการผสานการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ไฮบริดประสิทธิภาพสูงและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ สร้างการขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ทรงพลัง มีประสิทธิภาพสูง และประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร

และสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่
1. โหมดมาตรฐาน
2.โหมด Sport
3.โหมด ECO
4.โหมดสภาพถนนลื่น ซึ่งจะมีการปรับการใช้พลังงานในการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละโหมด

ควบคุมความนุ่มนวลและปลอดภัยด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมด้วยเทคโนโลยี LEMON Hybrid DHT (Dedicated Hybrid Technology) ที่พัฒนาขึ้นโดย GWM

ภายนอกโดดเด่นสะดุดตา

ภายนอก HAVAL JOLION Hybrid โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ กับระบบ Daytime Running Light และระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค พร้อมด้วยไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ร่วมด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา หลังคาพาโนรามิคซันรูป และไฟท้าย LED ที่ให้มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ให้ผู้ขับขี่รู้สึกเสมือนกำลังโลดแล่นไปกับราชสีห์ที่กำลังเปล่งเสียงคำรามอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น JOLION (Joy + Lion)

ภายในเน้น Future การใช้งานตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

สำหรับดีไซน์ภายใน ออกแบบภายใต้แนวคิด Future Intelligent Cockpit ให้ความรู้สึกกว้างขวางและสะดวกสบาย ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อของ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลางแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX และระบบนำทาง ต่อด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า

นอกจากนี้ ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย อาทิ
– เบาะนั่งไฟฟ้าด้านหน้าฝั่งคนขับที่ปรับได้ถึง 6 ทิศทาง
– ลำโพง 6 ตัว
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวาและระบบช่องแอร์ด้านหลัง
– ระบบกรองอากาศ PM2.5
– ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger)
– ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter
– กุญแจ Smart Key
– ระบบ Push Start

รวมไปถึงพื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งเบาะที่นั่งด้านหลังสามารถพับลงได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร

ราคา Haval JOLION
Haval JOLION รุ่น Tech ราคา 879,000 บาท
Haval JOLION รุ่น Pro ราคา 939,000 บาท
Haval JOLION รุ่น Ultra ราคา 999,000 บาท

สำหรับใครที่อยากลองสัมผัส All New HAVAL JOLION Hybrid สามารถแวะเวียนไปเยี่ยมชมและทดลองได้ที่งาน Motor Expo 2021 ซึ่งในงานนี้มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและแนะนำการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างละเอียด รับรองว่าคลายข้องสงสัยได้อย่างแน่นอน ส่วนที่ที่กำลังมอง HAVAL H6 และ Ora Good Cat ในงานนี้ก็มีใช้ทดสอบเช่นกัน

นอกจากนี้ภายในงาน Motor Expo 2021 ยังได้เผยโฉมรถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นล่าสุด All New HAVAL H6 Plug-In Hybrid SUV ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วยประหยัดน้ำมัน พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 8 โหมด รวมถึงโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้า 100% ที่วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 201 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

และรถยนต์เอสยูวีออฟโรดจากแบรนด์น้องใหม่อย่าง TANK 500 HEV ที่มาพร้อมรูปทรงรถยนต์ที่สง่างามและทรงพลัง ด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริด 2.0T+9HAT ให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 180kW และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ร่วมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ระบบการจดจำ และการเปลี่ยนโหมดการขับขี่อัตโนมัติตามสภาพพื้นถนน ซึ่งสามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ด้วยคำสั่งเสียง ไม่ว่าจะเป็นโหมดลุยน้ำหรือฟังก์ชั่นออฟโรด

Tagged:

admin24

admin24

RELATED ARTICLES