ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่เน้นทางคลาสสิค Royal Enfield เพิ่มทางเลือกในรุ่น Classic 500 ด้วยความคลาสสิคในแบบรถมอเตอร์ไซค์ทหารสำหรับใช้งานในกองทัพด้วย Royal Enfield Classic 500 Pegasus Edition ซึ่งใช้ชื่อและการตกแต่งเพื่อระลึกถึงรถมอเตอร์ไซค์ที่เคยมีบทบาทหลังแนวรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ช่วงที่การรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังรุนแรง Royal Enfield ได้ออกแบบมอเตอร์ไซค์ 125 ซีซีที่มีความคล่องตัวสำหรับการขนส่งด้วยพาราชูตไปยังหลังแนวข้าศึกสำหรับสนับสนุนด้านการติตต่อสื่อสารทางทหารด้วยการเคลื่อนที่ที่รวดเร็ว
มอเตอร์ไซค์จาก Royal Enfield ที่ใช้ในกองทัพนี้ถูกเรียกว่า The Flying Flea จากผู้ขี่ ซึ่งทาง Royal Enfield ได้นำเอารูปแบบของมอเตอร์ไซค์ The Flying Flea ที่ใช้ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับมาใหม่ด้วยการนำเอารุ่น Classic 500 มาตกแต่งในแบบมอเตอร์ไซค์สำหรับใช้ในกองทัพเหมือน The Flying Flea
การตกแต่งในสไตล์กองทัพของ Royal Enfield Classic 500 Pegasus Edition ประกอบด้วยการใช้สีของตัวรถซึ่งเป็นสีด้านเหมือนที่ The Flying Flea ดั้งเดิมใช้ในกองทัพอังกฤษ และรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันจะมีสัญลักษณ์ Ballerophon the Warrior บนหลังเปกาซัสซึ่งเป็นสัญลักษณ์กองทหาร Airborne Pegasus ข้างๆ กับตัวเลขซีเรียลนัมเบอร์ของรถที่พิมพ์ลงบนถังน้ำมันแทนชื่อ Royal Enfield ส่วนที่บังโคลนหลังมีที่สำหรับติดตั้งกระเป๋าพร้อมกับมีกระเป๋าผ้าใบสีน้ำตาลที่มีตราสัญลักษณ์เปกาซัสเช่นเดียวกับที่ตัวรถติดอยู่ทั้ง 2 ด้านของล้อหลัง
ส่วนสเปคของ Classic 500 Pegasus Edition คือใช้แชสซีส์แบบ Single Downtube โดยติดตั้งเครื่องสูบเดียว 4 จัวหวะ 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศบนแชสซีส์ มีกำลัง 36.5 แรงม้าที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิด 41.3 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นโช๊ก Telescopic ขนาด 35 มม. ด้านหลังเป็นโช๊กแก๊สคู่แก๊ส ปรับได้ 5 สเต็ป
Royal Enfield 500 Classic Pegasus Edition มีการผลิตจำกัด 1,000 คัน โดยจำนวนนี้จะจำหน่ายในอินเดีย 250 คัน ขณะที่อีก 750 คันจำหน่ายทั่วโลก