Mercedes-Benz เปลี่ยนโฉมใหม่ให้กับรถซับคอมแพกต์ 5 ประตูของตน ซึ่ง Mercedes-Benz A-Class ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 นี้ไม่เพียงมีรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจนทั้งในด้านความโฉบเฉี่ยว และความสปอร์ตขึ้น ภายในตัวถังที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ถูกเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ในรถซับคอมแพกต์ 5 ประตูใหม่รุ่นนี้จากค่ายดาวสามแฉกไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์และการทำงานต่างๆ
สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนรุ่นใหม่ของรถยนต์จาก Mercedes-Benz ก็คือการเปลี่ยนอย่างพลิกโฉมจนไม่เหลือเค้าโครงจากรุ่นเดิมไว้ ซึ่งกับ Mercedes-Benz A-Class รุ่นใหม่รหัส W177 ก็เช่นเดียวกันที่มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างชัดเจนทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่มีความโฉบเฉี่ยว ความทันสมัย และดูสปอร์ตขึ้นมาก และเมื่อย้อนกลับไปดูถึง A-Class ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก 5 รุ่นแรกที่ออกมาในปี 1997 ก็จะยิ่งพบว่า A-Class ใหม่แทบจะไม่เหลือเค้าโครงของรถยนต์กะทัดรัดน่ารักสำหรับการใช้งานในเมืองในรุ่นแรกไว้เลย
แนวทางการออกแบบภายนอกของ A-Class ใหม่คือความสปอร์ต มีพลัง และเร้าใจมากขึ้น ซึ่งแสดงออกมาอย่างชัดเจนที่ด้านหน้าของตัวรถจากฝากระโปรงหน้าที่ต่ำ ไฟหน้า LED ที่มีโครมเมียมเป็นส่วนประกอบ พร้อมไฟ Daytime Driving Lamp รูปทรงเหมือนคบเพลิง และอีกสิ่งที่ช่วยเสริมให้ A-Class ใหม่ทั้งโฉบเฉี่ยวและสปอร์ตขึ้นอย่างเด่นชัดคือกระจังหน้าพร้อมโลโก้ดาวของ Mercedes-Benz ที่มีลายกระจังหน้าเป็นจุดคลายเพชรและเส้นคาดกลางกระจังหน้าเหมือนรถยนต์หลายรุ่นของ Mercedes-Benz ที่เน้นความสปอร์ต
แม้จะดูโฉบเฉี่ยวและสปอร์ตขึ้นจากการเห็นด้วยตา แต่สิ่งที่อยู่ภายใต้รูปลักษณ์นี้คือขนาดตัวถังที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติจากรุ่นก่อนหน้า โดย A-Class ใหม่มีความยาว 4,419 มม. ยาวกว่ารุ่นเดิม 120 มม. กว้าง 1,796 มม. กว้างขึ้น 16 มม. หรือแม้แต่ความสูงก็ยังสูงขึ้น 6 มม. จากตัวเลข 1,440 มม. ซึ่งจากการเพิ่มขึ้นในทุกด้านของตัวรถจึงส่งผลต่อพื้นที่ห้องโดยสารที่มากขึ้นทั้งในช่วงไหล่ เข่า และหัวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ส่วนพื้นที่เก็บของด้านหลังเบาะหลังมีความกว้างขึ้นกว่ารุ่นเดิม 20 ซม. และยาวขึ้น 11.5 มม. ซึ่งตัวเลขอาจจะดูไม่มาก แต่ก็ทำให้สามารถเก็บของได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 29 ลิตรด้วยตัวเลขความจุรวม 370 ลิตร
Mercedes-Benz A-Class ใหม่มีทางเลือกของเครื่องยนต์ 3 ขนาดกับ 2 เครื่องยนต์เบนซินและ 1 เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ ประกอบด้วยรุ่น A 200 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,330 ซีซี 163 แรงม้า แรงบิด 1,620 นิวตันเมตร รุ่น A 250 เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี 224 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และ A 180D เครื่องดีเซล 1,500 ซีซี 116 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร ทุกรุ่นเครื่องยนต์ใช้เกียร์ 7G-DCT 7 สปีดในการส่งกำลังยกเว้นรุ่น A 200 ที่มีเกียร์แมนนวล 6 สปีดเป็นอีกทางเลือก
หากอยากได้รุ่นที่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ดีที่สุดจะต้องเลือก A250 เพราะทำเวลาได้ดีที่สุดที่ 6.2 วินาที เอ-คลาสใหม่มีระบบขับเคลื่อนแบบทุกล้อ 4-Matic มาเป็นอีกทางเลือกนอกจากการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า
ส่วนระบบอำนวยควาสะดวกในการขับ A-Class ใหม่ได้ปรับนำเอาหลายการทำงานจากเอส-คลาสมาใช้อย่างอย่างการปรับปรุงกล้องและระบบเรดาร์ที่ช่วยให้มองเห็นได้ไกลถึง 500 เมตร พร้อมกับมีการใช้ข้อมูลจากแผนที่และระบบนำทางสำหรับระบบช่วยในการขับอย่าง Active Distance Assist Distronic สำหรับช่วยในการขับในเส้นทางต่างๆ พร้อมคาดการและปรับความเร็วในสถานการณ์อย่างเช่นเข้าโค้ง หรือทางแยก
ระบบมัลติมีเดียใน A-Class ใหม่เป็นระบบใหม่ MBUX – Mercedes-Benz User Experience ซึ่งมี Artificail Intelligent เพื่อเรียนรู้และปรับตั้งให้เหมาะกับผู้ใช้ โดยระบบนี้ประกอบด้วยจอไวด์สกรีนความละเอียดสูงพร้อมการทำงานทัชสกรีนและทัชแพด รวมทั้งปุ่มแบบสัมผัสที่พวงมาลัยเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อควบคุม พร้อมกับการสั่งงานด้วยเสียงซึ่งเริ่มต้นทำงานด้วยคีย์เสียง Hey Mercedes
การแสดงข้อมูลต่างๆ ทั้งในการขับและ Infotainment ของ Mercedes-Benz A-Class จะทำผ่าน 2 หน้าจอความยาว 10.25 นิ้วที่รวมอยู่ภายในกรอบเดียวกัน ซึ่งทำให้ยาวตั้งแต่ด้านหน้าผู้ขับไปจนถึงคอนโซลกลาง
Mercedes-Benz A-Class ใหม่จะเริ่มจำหน่ายในช่วงควอเตอร์ที่ 4 ของปี 2018 ซึ่งไม่นานหลังจาดนั้นคงได้เห็นในตลาดเมืองไทย
