ช่วงกลางปี 2018 Chevrolet เปิดตัวรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่ในชื่อ Blazer เพื่อแทรกกลางระหว่างรุ่น Equinox และ Traverse โดยเริ่มประกอบในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และตอนนี้ Blazer พร้อมสำหรับการจำหน่ายแล้วในอเมริกาและภูมิภาคที่เป็นเป้าหมายของรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นนี้
Chevrolet Blazer ถูกออกแบบให้เป็นรถเอสยูวีขนาดกลางสองแถวห้าที่นั่งโดยตัวรถมีความยาว 4,861 มม. กว้าง 1,948 มม. สูง 1,701 มม. ขณะที่ฐานล้อมีความยาว 2,862 มม. โดยภายนอกได้รับการออกแบบเพื่อมีความเป็นสปอร์ตเอสยูวีจากกระจังหน้าที่ใหญ่ดุดัน พร้อมรูปทรงรถที่ดูมีกล้ามเนื้อทรงพลังในแบบเอสยูวี โดยมีไฟหน้า HID พร้อมไฟ LED Daytime Running Light และไฟหลัง LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
แม้จะมีรูปทรงที่สปอร์ตแต่ขณะเดียวกัน Blazer ก็ให้ความอเนกประสงค์ในบรรทุกสัมภาระความจุสูงสุด 1,818 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวที่สองลง รวมไปถึงมีระบบ Cargo Management System ที่มีระบบรางและรั้วเพื่อป้องกันสิ่งของที่อยู่ด้านหลังหลุดรอดจากพื้นที่เก็บของ
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน Blazer มีสองทางเลือกระหว่าง 4 สูบ 2,500 ซีซี 193 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร และเครื่อง V6 3,600 ซีซี 305 แรงม้า แรงบิด 227 นิวตันเมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดส่งกำลัง ขณะที่ระบบขับเคลื่อนที่ทั้งแบบล้อหน้าและสี่ล้อ
ภายในของ Blazer ใช้จอ LCD ขนาด 8 นิ้วทัชสกรีนสำหรับระบบ Infotainment โดยรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งมีกล้องหลังและระบบปรับอากาศสองโซนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในอเมริกา Blazer มีจำหน่ายสามรุ่นย่อยคือ Blazer, RS และ Premier ซึ่งนอกจากจะมีอุปกรณ์มาตรฐานที่แตกต่างกันแล้วยังมีความแตกต่างที่กระจังหน้าและสัญลักษณ์ Bowtie โดยในรุ่น Blazer มีกระจังหน้าสีดำพร้อม Bowtie สีทอง รุ่น RS มีกระจังหน้าลายตาข่ายสีดำพร้อม Bowtie สีดำ และรุ่น Premier ใช้กระจังหน้าสีดำเงาพร้อม Bowtie สีทอง
Chevrolet ประกอบ Blazer ที่โรงงาน Ramos Arizpe Assembly ในเม็กซิโก โดยนอกจากสหรัฐอเมริกา และแคนาดาแล้วอีกประเทศที่รถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นนี้ทำตลาดแน่ๆ คือสเปน ส่วนจะทำตลาดในประเทศใดอีกบ้างคงต้องรอดูต่อไป