นอกจาก BMW Z4 M40i กับกำลัง 340 แรงม้าซึ่งเป็นรุ่นทางเลือกความแรงจาก M Performance ที่จัดแสดงพร้อมกับเปิดเผยรายละเอียดด้านสมรรถนะไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดทางผู้ผลิตรถยนต์ที่มีสัญลักษณ์เป็นใบพัดฟ้า-ขาวได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลโรดสเเตอร์รุ่นใหม่ของตนอย่างละเอียดพร้อมกับสองรุ่นที่มีสมรรถนะมาตรฐานในการทำตลาด
BMW Z4 ถูกออกแบบให้มีมิติของตัวรถที่มากกว่ารุ่นเดิมในทุกด้านโดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 85 มม. จากตัวเลข 4,324 มม. กว้างขึ้น 74 มม. จากตัวเลข 1,864 มม. รวมทั้งยังสูงขึ้นกว่าเดิมอีก 13 มม. ด้วยความสูงของรถ 1,304 มม. แต่เพื่อให้มีการขับเคลื่อนที่คล่องตัวมากขึ้นจึงมีการลดระยะฐานล้อให้สั้นลงกว่าเดิม 26 มม. เหลือ 2,470 มม.
โดย Z4 ใหม่จะมาพร้อมไฟหน้า LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานและมีไฟ Adaptive LED เป็นทางเลือก รวมไปถึงมีหลังคาอ่อนสีดำเป็นอุปกรณ์มาตรฐานขณะที่หลังคาอ่อน Anthacite สีเงินเป็นทางเลือก
ส่วนสองทางเลือกในด้านสมรรถนะของ Z4 รุ่นมาตรฐานคือ Z4 sDrive20i และ Z4 sDrive30i ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี ทวินเทอร์โบในการขับเคลือนเหมือนกัน แต่จะมีกำลังที่แตกต่างกัน โดยรุ่น sDrive20i มี 197 แรงม้าที่ 4,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรตั้งแต่ 1,450-4,200 รอบ/นาที และใช้เวลา 6.6 วินาทีเพื่อเร่งจาก 0-100 กม./ชม.
ขณะที่รุ่น sDrive30i มีกำลังที่ขยับเข้าใกล้ Z4 M40i ขึ้นอีกนิดด้วยตัวเลข 258 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550-4,400 รอบ/นาที และใช้เวลาเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ช้ากว่ารุ่น M40i 0.9 วินาทีด้วยตัวเลข 5.4 วินาที สำหรับการส่งกำลังสู่ล้อหลังของทั้งสองรุ่นเป็นหน้าที่ของเกียร์ Steptronic Sport 8 สปีด พร้อมกับมีการทำงาน Launch Control ช่วยเพิ่มการเร่งและการทรงตัวตั้งแต่เริ่มออกรถ
ช่วงล่างของ Z4 ทั้งสองรุ่นเป็นแบบใหม่ใช้สปริงสตรัท Double-joint ที่ด้านหน้า และ 5-Link ที่ด้านหลังเพื่อให้ที่งความสปอร์ตและความสบายในการขับ โดยที่ระบบ Electronic Power Steering ถูกออกแบบเพื่อให้ทั้งการควบคุมที่มั่นคงในทางตรงและความคล่องแคล่วในการเข้าโค้ง รวมไปถึงสามารถปรับกำลังในการผ่อนแรงและมุมการหมุนของพวงมาลัยเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์การขับได้
ภายในของ Z4 ใหม่มาพร้อมเบาะสปอร์ตพร้อมการปรับควบคุมด้วยไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยรางปรับเบาะถูกเพิ่มความยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม 23 มม. การแสดงข้อมูลและการปรับควบคุมในห้องโดยสารเป็นแบบ BMW Live Cockpit Professional ซึ่งรวมไปถึงระบบ BMW Operation System 7.0 และจอขนาด 10.25 นิ้วสำหรับการแสดงข้อมูลดิจิตอลด้วย นอกจากนี้ Z4 ใหม่จะมาพร้อมกับระบบ BMW Digital Key ที่ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อล็อกและปลดล็อกรถได้
สำหรับการเปิดตัว BMW Z4 เพื่อทำตลาดทั่วโลกอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า แต่ก่อนหน้านั้นทาง BMW จะนำโรดสเตอร์รุ่นใหม่ของตนไปแสดงที่ป่รีสมอเตอร์โชว์ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ก่อน