ตามปกติแล้วหลังการเปิดตัวรถแต่ละรุ่นผู้ผลิตก็มักจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างของรถอย่างไฟหน้า-หลัง กันชน เพิ่มการทำงานหรือออฟชั่นบางอย่าง รวมทั้งเพิ่มสีใหม่เพื่อกระตุ้นความน่าสนใจในตลาดทุกปีหรือสองปี และเมื่อถึงช่วงกลางอายุการทำตลาดก็มักมีการปรับโฉมใหญ่สักครั้ง สำหรับ BMW 7 Series รุ่นปัจจุบันซึ่งถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 ล่าสุดได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่ออกมาจนอาจทำให้คิดว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมได้
สิ่งที่ทำให้ BMW 7 Series รุ่นใหม่ดูแตกต่างจากรุ่นก่อนปรับโฉมอย่างชัดเจนมีทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โดยที่ด้านหน้ามีการเปลี่ยนกระจังหน้าไตคู่เป็นทรงใหม่แบบเฟรมเดียวที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าในรุ่นก่อนถึง 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับออกแบบไฟหน้าให้มีรูปทรงเรียวยาวขึ้นเพื่อเน้นความเด่นของกระจังหน้าโดยที่มีไฟ Adaptive LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และไฟ Laserlight ที่มีระยะส่องสว่าง 560 เมตรเป็นทางเลือกเสริม พร้อมกับการกระจังหน้าและไฟหน้า ทาง BMW ได้มีการเปลี่ยนกันชนหน้าใหม่ให้กับซีดานรุ่นหรูของจนด้วย จนเรียกได้ว่าด้านหน้าถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด พร้อมกับเพิ่มความสูงขึ้น 50 มม.
ด้านข้างของซีดานรุ่นใหญ่ถูกเพิ่มความหรูด้วยช่องระบายอากาศแนวตั้งพร้อมของโครเมียมที่ยาวถึงประตูหลัง ขณะที่ด้านหลังของรถได้มีการออกแบบไฟท้ายให้มีรูปทรงเรียวยาวตามไฟหน้าโดยที่ภายในกรอบไฟสีแดงและดำเน้นไฟรูปทรงตัว L พร้อมกับเพิ่มแถบไฟขนาด 6 มม. ยาวระหว่างไฟท้ายทั้งสองด้าน ขณะที่ด้านล่างมีการขยายปลายท่อไอเสียให้ใหญ่ขึ้น
เครื่องยนต์ในรุ่นปรับโฉมใหม่ยังมาพร้อมกับทางเลือกของ 2 เครื่องยนต์เบนซิน 3 เครื่องยนต์ดีเซล และอีกทางเลือกแบบไฮบริดเหมือนเดิม โดยที่รุ่นสูงสุดยังคงเป็นเครื่อง V12 6,600 ซีซีในรุ่น M760Li xDrive แต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน V8 4,400 ซีซีได้มีการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่จนมีกำลัง 530 แรงม้าซึ่งมากกว่าเดิมถึง 80 แรงม้า
ขณะที่รุ่นไฮบริดทาง BMW ระบุได้มีการปรับปรุงเครื่อง V6 3,000 ซีซีใหม่และใช้แบตเตอรี่ที่มีกำลังมากขึ้น ส่วนสามรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลยังคงใช้เครื่อง 6 สูบ 3,000 ซีซีทั้งหมด โดยมีกำลังแตกต่างกันตั้งแต่ 265 ถึง 400 แรงม้า ซึ่งทุกรุ่นใช้เกียร์ Steptronic 8 สปีดส่งกำลังสู่ล้อขับเคลื่อน
BMW เพิ่มความเงียบในห้องโดยสารด้วยการเพิ่มการป้องกันเสียงทั้งที่ซุ้มล้อหลังและเสา B รวมทั้งใช้กระจกลามิเนตด้านข้างและกระจกหลังที่มีความหนาเพิ่มขึ้น 5.1 มม. เพื่อช่วยป้องกันเสียง นอกจากนี้ยังเพิ่มความหรูให้องโดยสารด้วยการใช้หนัง Nappa ที่มีคุณภาพสูง
7 Series ใหม่มาพร้อม Live Cockpit Professional และ BMW Operation System 7.0 เป็นระบบมาตรฐานสำหรับการปรับควบคุมของผู้ขับ พร้อมมีการออกแบบพวงมาลัยหนังรวมทั้งปรับโครงสร้างแผงควบคุมสำหรับช่วยในการขับใหม่
ในด้านความบันเทิงที่ด้านหลังเบาะหน้าทั้งสองติดตั้งจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้วเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้โดยสารในเบาะหลัง โดยที่มีระบบเสียง Bowen & Wilkins Diamond 3D Surround Sound เป็นทางเลือกเสริม
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการระบุรายละเอียดต่างๆ ของ 7 Series รุ่นปรับโฉมใหม่ออกมาแล้ว แต่ทาง BMW ยังไม่ระบุถึงราคาและช่วงเวลาจำหน่ายรถหรูรุ่นนี้ของตน