Audi ปรับโฉมให้ซูเปอร์คาร์ของตนทำให้ Audi R8 ถูกเพิ่มทั้งความดุดันของรูปลักษณ์ รวมทั้งมีสมรรถนะสูงขึ้นจากเทคโนโลยีของสนามแข่งทั้งในรุ่นคูเป้และเปิดประทุนด้วยการใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ R8 LMS GT3 รถสำหรับสนามแข่งที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ในด้านรูปลักษณ์ของ Audi R8 ส่วนที่ถูกปรับหลักๆ อยู่ที่ด้านหน้า ซึ่งสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือช่องแนวนอนสามช่องปลายฝากระโปรงหน้าซึ่งมาจาก Ur-quattro รุ่นดังในอดีต พร้อมกับมีการขยายกระจังหน้าซิงเกิลเฟรมให้กว้างขึ้น เปลี่ยน Splitter และช่องดักอากาศด้านข้างใหม่ รวมทั้งเพิ่มทางเลือกของสีใหม่สองสีคือสีเทา Kemora Gray และสีฟ้า Ascari Blue
ในส่วนของสมรรถนะของ R8 ยังคงมาพร้อมสองทางเลือกความแรงจากเครื่องยนต์ V10 5,200 ซีซีเหมือนเดิม โดยรุ่นเริ่มต้นมี 562 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนปรับโฉมที่มี 533 แรงม้าและแรงบิด 540 นิวตันเมตร รวมทั้งยังมีอัตราเร่งที่ดีขึ้นด้วยการใช้เวลา 3.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. เช่นเดียวกับที่ความเร็วสูงสุดเพิ่มไปถึง 324 กม./ชม.
ขณะที่รุ่นแรงขึ้นมาพร้อมกับกำลัง 611 แรงม้า แรงบิด 580 นิวตันเมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 331 กม./ชม. ซึ่งเป็นการเพิ่มจากเดิม 9 แรงม้าและ 20 นิวตันเมตรในส่วนของแรงบิด
นอกจากเพิ่มกำลีงแล้ว R8 ยังถูกเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมด้วยการปรับการทำงานควบคุมการทรงตัว Electronic Stabilization Control หรือ ESC ให้ดีขึ้น และลดระยะการเบรกให้สั้นลงโดยใช้ระยะทาง 1.5 เมตรเพื่อหยุดรถจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนเหลือศูนย์
หากต้องการเพิ่มสมรรถนะให้สูงขึ้น R8 มาพร้อมกับทางเลือกเสริมในการเสริมสมรรถนะด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาเป็นพิเศษลายก้าน V ขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง Summer Sport ใหม่เพื่อเสริมการควบคุมรถให้เฉียบคมขึ้น รวมทั้งดิสก์เบรกเซรามิกแทนของเดิมที่เป็นโลหะ และกันโคลง Carbon Fiber-Reinforce Polymer ที่ด้านหน้า
ส่วนภายในของ R8 ไม่มีการระบุถึงความเปลี่ยนแปลงจึงหมายความว่าเหมือนก่อนปรับโฉม โดย Audi จะเริ่มจำหน่าย R8 รุ่นปรับโฉมใหม่ที่เยอรมนีและยุโรปตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า ขณะที่ราคายังไม่มีการระบุออกมา