แม้ผู้ปกครองจำนวนมากที่ห่วงใยความปลอดภัยของลูกหลานเมื่ออยู่ในรถจะซื้อเบาะนิรภัยสำหรับเด็กมาใช้ แต่อุปกรณ์นี้จะไม่มีประโยชน์หากไม่มีการใช้อย่างถูกต้อง รวมทั้งยังมีบางสิ่งเกี่ยวกับเบาะนิรภัยเด็กที่ผู้ปกครองไม่รู้อย่างเรื่องอายุการใช้งาน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะทำให้อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับเด็กนี้ถูกใช้งานเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเพื่อการใช้ เบาะนิรภัยเด็ก อย่างถูกต้อง ที่ทาง Nissan อเมริกาเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในโอกาสที่เป็นเดือนแห่งความปลอดภัยของผู้โดยสารเด็กแห่งชาติของอเมริกา
1 ตรวจความเหมาะสมของเบาะนั่งนิรภัยเด็กประจำปี
ผู้ปกครองควรตรวจ เบาะนิรภัยเด็ก เสมอเพื่อความมั่นใจว่ายังคงเหมาะสำหรับการใช้ได้อย่างเหมาะสมกับเด็ก โดยอาจเลือกวันเกิดของลูกเพื่อเป็นวันสำหรับตรวจสอบ
2 ใช้กฏ 1 นิ้ว
เบาะนิรภัยเด็กที่ถูกติดตั้งอย่างถูกต้องไม่ควรขยับได้มากกว่า 1 นิ้วในทุกทิศทางบนเข็มขัดนิรภัยที่คล้องอยู่ หากขยับมากกว่านั้นจำเป็นต้องมีการปรับใหม่ให้แน่นขึ้น
3 ติดในมุมที่เหมาะสม
สำหรับการติดตั้งเบาะโดยหันด้านหน้าของเบาะนิรภัยเด็กไปทางด้านหลังรถ สามารถใช้ผ้าเช็ดตัวม้วนให้กลมเพื่อช่วยให้ความนิ่งและทำให้มีมุมในการติดตั้งที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กได้
4 ทดสอบการรัดบนเบาะนิรภัยเด็ก
หลังจากปรับสายรัดบนเบาะนิรภัยเด็กแล้ว ควรทดสอบในลักษณะใช้ 2 นิ้วหยิกสายรัดที่ไหล่ของเด็ก หากนิ้วที่บีบเข้าหากันwไม่มีสายรัดติดมานิ้วออกมา แสดงว่าสายรัดมีความแน่นพอดี แต่ถ้านิ้วที่หยิกเข้าหากันสามารถหยิบสายรัดได้ ให้ปรับสายรัดที่เบาะให้แน่นขึ้นจนกระทั่งไม่สามารถใช้นิ้วหยิบได้
5 ตรวจสอบวันหมดอายุ
สิ่งที่ผู้ปกครองจำนวนมากอาจคิดไม่ถึงก็คือ เบาะนิรภัยเด็กมีวันหมดอายุ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 5 ปีหลังการผลิต ตามปกติจะมีวันหมดอายุพิมพ์หรือปั๊มอยู่ที่ด้านล่างของฐานเบาะ
6 ซื้อเบาะนิรภัยเด็กใหม่
แม้ว่าเบาะนิรภัยเด็กจะยังอยู่ในสภาพดี แต่ก็ควรใช้เฉพาะเบาะใหม่ซึ่งหมายถึงการมีระบบเหนี่ยวรั้งใหม่ด้วย
7 ถอดเสื้อกันหนาว
คำแนะนำนี้อาจไม่เหมาะสำหรับบ้านเรา แต่อาจเอาไปใช้ได้เมื่อไปต่างประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นจนต้องใส่เสื้อกันหนาวที่หนา ซึ่งจะส่งผลต่อความพอดีของสายรัดบนเบาะนิรภัยเด็กได้ ทางวิศวกรด้านความปลอดภัยของ Nissan แนะนำให้ถอดเสื้อกันหนาวของเด็กก่อนรัดสายรัดบนเบาะ แล้วสวมให้เด็กใหม่เข้าที่ด้านหน้าของเด็กโดยอยู่นอกสายรัด
8 เปลี่ยนเบาะใหม่หลังการชน
แผ่นโฟมภายในเบาะนิรภัยเด็กอาจไม่มั่นคงแม้หลังอุบัติเหตุการชนเพียงที่ไม่รุนแรง ดังนั้นถึงสภาพของเบาะจะยังคงดูดีอยู่แต่ก็อาจมีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งกฏหนึ่งที่สามารถใช้ได้คือ หากเกิดการชนจนถุงลมนิรภัยทำงานควรเปลี่ยนเบาะให้เด็กใหม่
9 รู้ว่าเมื่อใดที่ควรเลิกใช้เบาะสำหรับเด็ก
จากการศึกษาของ Safe Kids Worldwide ผู้ปกครอง 9 ใน 10 เปลี่ยนการใช้จากเบาะนิรภัยเด็กมาเป็นเข็มขัดนิรภัยเร็วเกินไป โดยการใช้เข็มขัดนิรภัยปกติของรถจะยังไม่เหมาะกับเด็กจนกระทั่งเด็กมีความสูงอย่างน้อย 132 ซม. และน้ำหนัก 36 ถึง 45 กิโลกรัม
10 ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีนั่งเบาะหลัง
การชนโดยปะทะที่ด้านหน้ามักเป็นรูปแบบการชนหลัก ดังนั้นจึงควรให้เด็กนั่งที่เบาะหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่การพองตัวของถุงลมนิรภัย